ในการให้บริการด้านงานทะเบียนราษฎรมักพบว่ายังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับทะเบียนบ้านกลางอยู่หลายประการ
เช่น ใครก็สามารถย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านกลางได้
หรือบางรายต้องการให้ลูกย้ายเข้ามาเรียนที่เขตกรุงเทพฯ แต่ไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อย้ายลูกเข้ามาได้
จึงมาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอย้ายลูกเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านกลางของเขตที่มีความประสงค์ให้ลูกมีสิทธิเข้าเรียนในโรงเรียน เป็นต้น
คำว่าทะเบียนบ้านกลาง
เป็นคำที่บัญญัติอยู่ใน มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534
ซึ่งได้ให้คำนิยามไว้ว่า “ทะเบียนบ้านกลาง หมายความว่า
ทะเบียนซึ่งผู้อำนวยการทะเบียนกลางกำหนดให้จัดทำขึ้นสำหรับลงรายการบุคคลที่ไม่อาจมีชื่อในทะเบียน”
และตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร
พ.ศ. 2535 ข้อ 46 ได้กำหนดเกี่ยวกับทะเบียนบ้านกลางเพิ่มเติมไว้ว่า “ทะเบียนบ้านกลางมิใช่ทะเบียนบ้านแต่เป็นทะเบียนที่ใช้สำหรับลงรายการบุคคลที่ไม่อาจมีชื่อในทะเบียนบ้านได้
และให้สำนักทะเบียนทุกแห่งจัดทำทะเบียนบ้านกลางของสำนักทะเบียนไว้”
ซึ่งจะตรงกันข้ามกับคนทั่วไปที่มักจะเข้าใจว่าทะเบียนบ้านกลางเป็นทะเบียนบ้านประเภทหนึ่ง
สำหรับบุคคลที่ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนกลางก็เป็นไปตามที่กฎหมายทะเบียนราษฎรกำหนดซึ่งมีอยู่หลายประเภท
แต่มีประเภทหนึ่งซึ่งมักเจอเป็นประจำ ได้แก่
กรณีที่เจ้าบ้านมาแจ้งย้ายออกโดยไม่ทราบที่อยู่ของคนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านโดยแจ้งว่าบุคคลดังกล่าวได้ออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นเกินกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวันและไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวไปอยู่ที่ใด
ดังนั้นเมื่อไม่ทราบว่าย้ายไปอยู่ที่ใดนายทะเบียนจึงจำต้องย้ายชื่อออกไปและนำไปเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านกลางของสำนักทะเบียนนั่นเอง
เมื่อทะเบียนบ้านกลางไม่ใช่ทะเบียนบ้าน
ดังนั้น บุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางจึงต้องเสียสิทธิอยู่ในหลายประการ
หากเป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าบุคคลนั้นจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือต้องใช้ทะเบียนบ้านมาประกอบเป็นหลักฐานในการติดต่อราชการต่างๆ
ตัวอย่างของการเสียสิทธิ เช่น
•ไม่สามารถคัดและรับรองสำเนารายการของตนเองเพื่อนำไปอ้างอิงหรือใช้สิทธิต่างๆ เหมือนทะเบียนบ้านได้
•ไม่สามารถทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ได้
•ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในทุกระดับได้
•ไม่สามารถแจ้งย้ายปลายทางได้
•อื่นๆ
ที่ต้องขอรับบริการจากหน่วยงานของรัฐและจำเป็นต้องใช้ทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานประกอบ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคงไม่มีใครอยากมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางเป็นแน่ๆ...สำหรับผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางแล้วคงต้องรีบแจ้งย้ายออกไปอยู่ในทะเบียนบ้านปกติ
โดยนำหลักฐานแสดงตัว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ ใบขับขี่ ฯลฯ
ไปติดต่อขอแจ้งย้ายออกจากที่เขตหรืออำเภอที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางนั้นๆ
นะครับ
เรื่องโดย นายธนิต ตันบัวคลี่ หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์
(เขียนเมื่อ กันยายน 2555 ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตประเวศ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น